แม้เศรษฐกิจจะมีอัตราการเจริญเติบโตในลักษณะวีเชพจากฐาน เปรียบเทียบที่ต่ำของปีที่แล้วซึ่งมีผลจากปํญหาน้ำท่วมและมาตรการใช้จ่ายภาค รัฐหลายฝ่ายมองว่าเศรษซกิจไทยจะขยายตัวได้ถึง 4-5% เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ดีหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง และความต้องการสินเชื่อของประชาชนที่ต้องการนำเงินไปซ่อมแซมที่อยู่อาศัย รวมทั้งยานพาหนะ ซึ่งจะส่งผลให้สินเชื่อเช่าซื้อมีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดดในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เนื่องจาก การกลับมาเดินเครื่องการผลิตของค่ายรถ หลังจากอยู่ในช่วงฟื้นฟูธุรกิจช่วง 3-6 เดือนแรกของปี ทำให้ผู้ประกอบการในส่วนนี้มีการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ และเข้าไปดูแลลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อรักษา ฐานลูกค้าเอาไว้
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) หรือกรุงศรี ออโต้ กล่าวว่า แนวโน้มทิศทางอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ในปีนี้คงมีการเคลื่อนไหวบวกลบไม่ เกิน 0.5% โดยขึ้นอยู่กับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราเงินเฟ้อเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตามจากภาวะการแข่งขันของตลาดสินเชื่อรถยนต์ในปัจจุบันทำให้การ แข่งขันด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ เนื่องจากแต่ละที่มีต้นทุนที่ใกล้เคียงกัน แต่จะเป็นการแข่งขันในด้านการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าและเพิ่ม ความสะดวกสบายในการใช้บริการมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านความต้องการรถยนต์คงค้างที่เกิดขึ้นในภาวะน้ำท่วม จะส่งผลบวกต่อธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ แต่ขณะเดียวกันปัจจัยจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นอาจเป็นภาวะกดดันได้ แต่หากราคาน้ำมันดังกล่าวยังไม่สูงขึ้นเท่ากับระดับในปี 2008 ก็คงยังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก ทั้งนี้ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยรถยนต์ใหม่ป้ายแดงของบริษัทอยู่ที่ 2.65%
นายไพโรจน์ กล่าวด้วยว่า ปีนี้บริษัท ได้วางยุทธศาสตร์ยกระดับการดำเนินธุรกิจด้วยการมอบ “ประสบการณ์ใหม่” ให้ลูกค้ามั่นใจ และไว้วางใจได้ทุกครั้งที่ใช้สินเชื่อยานยนต์ของกรุงศรีออโต้ โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่พลิกโฉมบริการ เพื่อให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ถึงบริการที่แตกต่างภายใต้กลยุทธ์ธุรกิจ 4 ด้าน โดยจะเน้นไปที่การลดขั้นตอนการกรอกและยื่นเอกสารในการขอสินเชื่อ และขยายช่องทาง การขอสินเชื่อผ่านไปรษณีย์ไทยเป็น 800 สาขา จากปัจจุบันทำได้ 126 สาขา รวมทั้งออกแอพพลิเคชั่นการทำธุรกรรมทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าออนไลน์
สำหรับปีนี้ได้ตั้งเป้าสินเชื่อใหม่จำนวน 1.27 แสนล้านบาท โดยคาดว่า จะมียอดสินเชื่อรวมอยู่ที่ 1.9 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 28% และคาดว่า จะมีฐานลูกค้ารวม 9.1 แสนราย ซึ่งกรุงศรีออโต้ มั่นใจว่า บริษัทจะยังครอง ส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้อย่างเหนียวแน่นโดยเฉพาะในตลาดสินเชื่อรถใช้แล้ว และรีไฟแนนซ์ที่ยังคงอันดับหนึ่งในขณะนี้
ด้านผลประกอบการในปี 2554 เติบโตสูงกว่าเป้าหมาย มียอดสินเชื่อให้ 9.9 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 34% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 13% แม้ในปีที่ผ่านมาจะมีปัญหาอุทกภัยหลายจังหวัด และส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจในภาพรวม อุตสาหกรรมรถยนต์ตลอดจนผู้บริโภคแต่กรุงศรี ออโต้ได้รับผลกระทบไม่มากนักโดยลูกค้าที่ประสบปัญหาการชำระค่างวดมีไม่ถึง 1% ของฐานลูกค้าทั้งหมด ทำให้ยอดสินเชื่อรวมของบริษัทเติบโตต่อเนื่องไปอยู่ที่ 1.51 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 26% สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้
ด้านนายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส เจ้าของแบรนด์ “ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ” เปิดเผยว่า ในปี 2554 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ประสบความสำเร็จในการบริหารงานตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ด้วย อัตราการเติบโตถึง 45% คิดเป็นยอดสินเชื่ออยู่ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาท มียอด ลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ราย แม้ว่าในช่วงกลางปีต้องประสบกับปัญหามหาอุทกภัยของประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบในทุกภาคธุรกิจก็ว่าได้ โดยในส่วนของบริษัทก็สามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้เป็นอย่าง ดี
สำหรับในปี 2555 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% หรือคิดเป็นยอดสินเชื่ออยู่ที่ 6,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีจำนวนยอดลูกค้าเพิ่มเป็น 150,000 ราย ในด้านสัดส่วนของ ลูกค้าปัจจุบัน 70% เป็นรถจักรยานยนต์ ส่วนที่เหลืออีก 30% เป็นลูกค้าประเภทรถยนต์ และรถเพื่อการพาณิชย์ เช่น รถบรรทุก รถบัส และรถแทรกเตอร์ พร้อมทั้งจะมีการขยายช่องทางการขาย รวมถึงการเปิดสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่เพิ่มมากขึ้นอีก 40 สาขาภายในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนการดำเนินงานในปี 2555 เพื่อมุ่งขึ้นสู่การมีส่วนแบ่ง การตลาดในระดับแถวหน้าของตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ โดยยังคงเน้นจุดแข็ง ด้านการรักษาระดับมาตรฐานการให้บริการที่รวดเร็ว ง่ายในการใช้บริการ ตามสโลแกน “ของ่าย ได้ไว” พร้อมกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ๆ โดยล่าสุดได้ออกบริการใหม่ สินเชื่อจำนำ ทะเบียนรถบรรทุก “เงินสิบล้อ” เจาะตลาดกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบกิจการขนาดเล็ก-กลาง ด้วยการนำรถบรรทุกมาขอสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง หรือต่อยอดธุรกิจ ผลตอบรับลูกค้ากลุ่มนี้ถือว่าดีมาก อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาบริการสินเชื่อทางการเงินให้มีความ หลาก หลายทุกรูปแบบเพื่อสนองต่อความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะในระดับกลาง และรากหญ้า เชื่อมันว่ายังมีการเติบโตในกลุ่มตลาดนี้อีกเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้บริษัทมีการเตรียมความพร้อมในด้าน บุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญในการด้านให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถทุกประเภทอย่างมืออาชีพ
นอกจากนี้ จากความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ตลอดในช่วงปีที่ผ่านมา จนทำให้ “ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ” เป็นที่รู้จักในอันดับต้นๆ ในธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ บริษัทจะยังมุ่งเน้นในการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยย้ำเรื่องความรวดเร็วและความง่ายในการอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
“มาถึงวันนี้ นับว่าศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ กำลังก้าวขึ้นสู่ปีที่ 3 ของการเป็นบริษัทในเครือของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งผลการดำเนินงานที่ผ่านมา นับว่าก้าวกระโดดในทุกๆ ช่วงปีก็ว่าได้ ด้วยเพราะการพัฒนากระบวนการทำงาน ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการวิเคราะห์ความเสี่ยง จึงมั่นใจว่า ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ จะก้าวสู่การเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ ของตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถได้แน่นอน” นายธัญญพงศ์ กล่าว
ขอบคุณที่มา siamturakij.com ลงวันที่ 17/03/2012 by CreditOnHand